แค้นนี้รอเธอ

แค้นนี้รอเธอ เล่าเรื่องเสียว

       ผม..นายภูผา หนุ่มโสดวัย 30 เจ้าหน้าที่วิเคราะห์การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทข้ามชาติแห่งหนึ่ง พื้นเพของผมเป็นคนชัยภูมิ ผมจากถิ่นเดิมมากลายเป็นคนเมืองหลวงตั้งแต่อายุ 18 โดยอาศัยข้าวก้นบาตรของหลวงน้าที่วัดหัวลำโพง ก่อร่างสร้างตัวขึ้นด้วยความวิริยะ และมีแรงแค้นเป็นตัวผลักดัน จนผมสามารถยืนขึ้นได้ด้วยความแข็งแกร่งอีกครั้ง       12 ปีที่ผมไม่เคยเหยียบย่างกลับภูมิลำเนา จนกระทั่งปีใหม่ที่เพิ่งผ่านมาผมลากไอ้มาร์ค..เพื่อนลูกครึ่งร่างใหญ่ พ่ออเมริกัน-แม่ไทย พากันขับรถ CR-V ป้ายแดง กลับไปเยี่ยมพ่อแก่แม่แก่ของผมที่อำเภอภูเขียว ชีวิตของไอ้มาร์คนั้นคล้ายกันกับผม มันถูกทิ้งให้โตมาในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า มันไม่รู้เลยว่าในชีวิตมันมีวงศาคณาญาติเหลืออยู่อีกบ้างหรือไม่ เราสองคนเพื่อนเป็นสนิทกันตั้งแต่สมัยเรียนที่รามคำแหง จนจบออกมาทำงานในบริษัทเดียวกัน เราสร้างตัวเองจากศูนย์เหมือนๆกัน ฉะนั้นมันกับผมจึงเป็นเหมือนเงาของกันและกันมาโดยตลอด เห็นผมที่ไหนต้องเห็นไอ้มาร์คที่นั่น เราสองคนใช้ชีวิตหนุ่มโสดกันอย่างโชกโชน ไม่ว่าเรื่องกิน เรื่องเที่ยว เรื่องหลับนอน และแม้กระทั่งเรื่องผู้หญิง..มันกับผมก็ใช้ร่วมกันอยู่บ่อยๆ       ทันที่ที่ไปถึงบ้านพร้อมของฝากมากมายให้พ่อแก่แม่แก่ ผมอยู่ให้ท่านชื่นชมกับความก้าวหน้าของชีวิตสักครู่ แล้วก็ลากไอ้มาร์คไปตะลอนทันที เงินโบนัสเป็นฟ่อนตุงอยู่ในกระเป๋าของเราทั้งสอง ผมขับรถคู่กายพาไอ้มาร์คชมบรรยากาศรอบๆอำเภอ 12 ปีที่ผมไม่เคยกลับมาเยือน มิได้ทำให้อำเภอภูเขียวเปลี่ยนแปลงไปมากนัก ร้านรวงตึกแถวเก่าๆในสมัยก่อนก็ยังคงอยู่ สอดแทรกด้วยอาคารขนาดใหญ่ของห้างสะดวกซื้อที่ผุดขึ้นมา 2-3 แห่ง ผมขับรถผ่านตลาดก็พบกับตึกแถวโทรมๆ ที่เมื่อ 12 ปีที่แล้วมันคือร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอ ร้านของพ่อไอ้ชัยพล..อดีตเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่เป็นผู้สร้างความแค้นให้กับผม แต่อันที่จริงถ้าไม่มีเหตุการณ์ที่ทำให้ผมต้องซมซานพลัดถิ่นไปเป็นเด็กวัดเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ก็อาจจะไม่มีนายภูผาหนุ่มอนาคตสดใสอย่างทุกวันนี้ก็เป็นได้       ผมเจ็บแปลบเหมือนมีเข็มทิ่มอยู่ในใจ เมื่อหวนคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้ว 12 ปี ภาพเด็กสาวหน้าใสในชุดนักเรียนม.ปลาย ร่างสูงเพรียวสมส่วน แก้มสีชมพู มีลักยิ้มสองแก้ม ที่ยามยิ้มแล้วนักเรียนชายทุกคนต่างมองกันตาค้าง เรือนผมยาวสลวยผูกโบว์สีน้ำเงิน ผุดวาบขึ้นมาในห้วงนึก ทอฝัน สาวผู้เป็นรักแรกและรักเดียวของผม สาวผู้บดขยี้หัวใจรักของผม ป่านนี้คงสุขสบายอยู่กับไอ้เพื่อนทรยศแล้วเป็นแน่       ผมขับรถผ่านไปอย่างเชื่องช้าด้วยใจที่ล่องลอย จนเกือบจะเลยสวนอาหารที่อยู่ด้านหลังอำเภอไปเสียแล้ว ถ้าไม่ได้ยินเสียงไอ้มาร์คร้องบอก ท้องฟ้ายังสว่าง สวนอาหารคงยังไม่ได้เปิดบริการ แต่เมื่อเหล่าพนักงานเสิร์ฟที่กำลังจัดตั้งโต๊ะได้ยินเสียงคำรามของเครื่องยนต์ขนาด 2400 ซีซี จากรถ CR-V ป้ายแดงของผม ต่างก็เงยหน้าขึ้นมามองด้วยความแปลกใจ ในอำเภอเล็กๆมีไม่บ่อยนักที่จะมีแขกขับรถหรูๆมาใช้บริการที่สวนอาหารแห่งนี้ ทันที่ที่รถจอดสนิท พนักงานในร้านต่างรีบกุลีกุจอกันมาต้อนรับ ผมเลือกซุ้มศาลาไม้ทรงไทยซึ่งจุคนได้ไม่ต่ำกว่า 8 ที่ แต่ผมมาเพียงแค่สองคน ถ้าไม่ใช่เพราะอิทธิพลของรถป้ายแดง ผมคงไม่มีโอกาสมานั่งซุ้มนี้แน่       ผมสั่งเหล้าฝรั่งยี่ห้อดังพร้อมกับแกล้มมาเต็มโต๊ะ จนเกินกว่าที่คนเพียงสองคนจะทานหมด เราสองคนนั่งดื่มนั่งกินไปกันเรื่อยๆ โดยมีสาวน้อยชุดซิ่นผ้าฝ้ายทอมือยาวเพียงเข่ามาคอยบริการชงเหล้าเสิร์ฟพร้อมเสียงพูดคุยในเรื่องสัพเพเหระ กระเซ้าเย้าแหย่พนักงานสาวๆอย่างครื้นเครง เราคุยกันถึงเรื่องเซ็กส์ล่าสุดกับ สาวิตรี เซลล์สาวผู้ยโส ผู้ซึ่งเคยมองเราด้วยหางตาเหยียดหยามในครั้งแรกที่ได้รับการแนะนำให้รู้จัก แต่หลังจากที่เราทั้งคู่ร่วมมือกันถล่มรูเสียวของเธอไปแล้ว จากสาวสวยหุ่นสะบึมที่หยิ่งทระนงก็กลายเป็นลูกแมวน้อยแสนเชื่อง ทาสกามที่พร้อมบริการให้เราทั้งคู่เมื่อถูกเรียกหา       เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนท้องฟ้ามืดมิด แสงไฟกระพริบพราวแพรวที่ประดับตกแต่งสวนอาหารดูสว่างไสว เสียงเพลงบรรเลงเบาๆจากเหล่านักดนตรีเริ่มขับกล่อม อันเป็นสัญญาณว่าอีกสักครู่ บรรดาเหล่านักร้องชายหญิงจะต้องขึ้นเวทีโชว์เพลงเมดเลย์ในจังหวะสามช่าให้ลูกค้าได้รับฟัง        นักร้องทั้งหมดต่างทยอยขึ้นเวทีขับกล่อมเพลงเมดเลย์จังหวะสามช่าพร้อมเต้นยักย้ายกันไปมา นักร้องหญิงของสวนอาหารแห่งนี้มีด้วยกัน 6 คน สามคนนับจากด้านซ้ายยังเป็นสาวน้อยรูปร่าหน้าตาสดใส ที่ดูเหมือนจะเพิ่งหัดร้องเพลงกันได้ไม่นานเท่าไหร่ เพราะหลายครั้งที่เสียงร้องคร่อมจังหวะดนตรี หรือไม่บางทีก็เสียงไปไม่ถึงตัวโน้ต ส่วนสาวสองคนทางด้านขวาเสียงร้องพร้อมท่าทางยักย้ายส่ายสะโพกตามจังหวะดนตรีดูเข้าท่ากว่า เสียเพียงแต่ว่ารูปร่างหน้าตาเธอไม่สดใสเท่าทางอีกฝั่ง ยกเว้นคนกลางที่ดูร่างสูงระหงกว่าทุกคน ร่างสูงขาวผ่องของเธอดูกลบรัศมีของนักร้องทั้ง 5 คนที่เหลือจนหมดสิ้น เสียงเพลงที่เธอขับกล่อมไพเราะเสนาะโสต แต่หน้าสวยหวานนั้นกลับแฝงแววเศร้าๆ ไม่สดใสร่าเริงเฉกเช่นเพื่อนๆ       ผมหมายตาสาวคนนี้ไว้ จึงสั่งสาวพนักงานเสิร์ฟให้นำพวงมาลัยพร้อมติดแบงค์สีแดงๆ 10 ใบไปมอบให้เธอบนเวที สักพักเมื่อเธอร้องเพลงจบก็เดินตรงมายังโต๊ะของผม เธอยกมือไหว้กล่าวสวัสดีพร้อมขอบคุณในมาลัยน้ำใจที่ผมมอบให้ แต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น ใจผมก็กระตุกอย่างแรง นักร้องสาวคนนี้ช่างคล้ายทอฝันยิ่งนัก แม้เธอจะแนะนำตัวเองว่าเธอชื่อ จอมขวัญ ก็ตาม จากการพูดคุยกันทำให้ผมทราบว่าอายุเธอน้อยกว่าผม 2 ปี ผมแกล้งถามถึงเรื่องครอบครัวของเธอจึงได้ทราบว่าเธอเคยมีสามีมาก่อน แต่เลิกกันไปนานแล้ว ก่อนที่เธอจะมาเป็นนักร้อง เธอได้แต่งงานกับเสี่ยหนุ่มเจ้าของร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในตลาด แต่แล้วพอผ่านไปเพียงแค่ 5 ปี ชีวิตสมรสของเธอก็พังทลายลงเพราะสามีหนุ่มนั้นทั้งเจ้าชู้และติดการพนัน น้ำเสียงที่เธอเล่านั้นแฝงแววเศร้าอย่างแท้จริง       ใช่แล้ว...นักร้องสาวคนนี้คือ “ทอฝัน” สาวผู้เป็นรักแรกและรักเดียวของผมนั่นเอง ภาพสาวน้อย ผมผูกโบว์สีน้ำเงิน ใบหน้าหวานหยดชวนฝันเช่นเดียวกับชื่อของเธอ ยามแย้มยิ้มดูสว่างเหมือนโลกของผมจะหยุดหมุน ผมกับเธอรู้จักกันมาตั้งแต่เธอเข้าเรียนม.1 ในขณะที่ผมอยู่ม.3 ความสัมพันธ์แบบพี่น้องร่วมโรงเรียนเริ่มกลายมาเป็นความรักเมื่อทอฝันเรียนม.3 ใช่ครับ...เราสองคนเคยรักกันมาก จนกระทั่งไอ้ชัยพล..ลูกชายคนเดียวของร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในตลาดเข้ามาแทรก เมื่อทอฝันเลื่อนชั้นขึ้น ม.4 เธอก็ฉีกสัญญารักระหว่างเราด้วยการนอกใจผมไปหาไอ้ชัยพล ผมยังจำถึงวาจาเยาะเย้ยครั้งสุดท้ายได้เต็มสองหู เมื่อผมไปทวงถามสัญญาใจของเราภู...ภูปล่อยฝันไปเถอะนะ ขอร้องล่ะ ฝันตกลงใจเลือกพี่ชัยแล้ว เค้ามีอนาคตกว่าลูกชาวไร่อย่างภู ฝันเองไม่อยากลำบากทำไร่อยู่กับภูไปจนตายหรอกนะ...       แต่ขณะนี้ ทอฝันกำลังนั่งอิงแอบผมอยู่ สองมือของเธอถูกผมเกาะกุมไว้ เธอจำผมไม่ได้แน่เพราะหลังจากที่ใจผมสลายไปในครั้งนั้นแล้ว หลังจากจบม.6 ผมก็ซมซานไปขออาศัยข้าวก้นบาตรของหลวงน้าที่วัดหัวลำโพง แล้วสมัครเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเปิดชื่อดังของรัฐ แรงทิฐิและแรงแค้นสาวคนรัก เป็นตัวกระตุ้นผลักดันให้ผมคร่ำเคร่งกับการเรียน และมุ่งมั่นในวิชาชีพจนประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว       ผมรู้ด้วยประสบการณ์ว่าขณะนี้เธอกำลังถูกชะตากับผม อาจเพราะรูปร่างหน้าตาที่คมเข้ม หรืออาจเกิดจากแบงค์สีแดง 10 ใบที่ผมติดไปกับพวงมาลัยก็ได้ จึงทำให้ทอฝันเต็มใจให้ผมกอดประคองเช่นนี้ บัดนี้ผมเปลี่ยนแปลงจากเด็กหนุ่มชาวไร่ร่างสูงผอม แต่งตัวปอนๆเพราะความยากจน มาเป็นชายหนุ่มหน้าเข้ม รูปร่างสมส่วนอยู่ในชุดเสื้อผ้าแบรนด์เนม ขับรถหรูป้ายแดง ทอฝันไม่มีทางจำผมได้แน่       ผมนั่งอยู่ที่สวนอาหารจนร้านปิด จากนั้นผมชวนเธอไปเที่ยวต่อ เธอตอบตกลงแต่ร้านแถวนั้นปิดประมาณตี 2 มันไม่มีที่กินต่อแล้ว ผมโยนกุญแจรถให้ไอ้มาร์คขับ ให้เธอนั่งกลาง โดยเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นกระโปรงยีนส์เสื้อยืดราคาถูก เพื่อนก็ขับรถไป ผมดึงร่างเธอมาแนบพรมจูบไปทั่วใบหน้าก่อนจะประกบปากกัน มือทั้งสองล้วงบีบเคล้นนมเธอหนักๆจนเธอครางฮือ ผมละมือข้างหนึ่งฉกวูบลงด้านล่าง เซาะผ่านขอบกระโปรงยีนส์ของเธอไปยังจุดหมายกึ่งกลางลำตัว ทอฝันอ้าขาอำนวยความสะดวกให้ ผมกรีดปลายนิ้วลากผ่านกางเกงในของเธอไปมา จนพบว่าร่องเสียวเรียวยาวของเธอนั้นฉ่ำชื้นไปด้วยหยาดน้ำแห่งความกระสัน ผมรู้สึกมึนจากการดื่มเล็กน้อย แต่ไม่เท่ากับแรงแค้นที่เกาะกุมจิตใจอยู่ในขณะนั้น       ผมพาทอฝันเข้าไปเช็คอินที่โรงแรมโดยไม่ได้ถามความสมัครใจของเธอเลย ไอ้มาร์ครออยู่ที่รถ และเมื่อผมเข้าห้องเรียบร้อยแล้วจึงได้โทรศัพท์ไปบอกหมายเลขห้องกับมัน ทอฝันเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำก่อนที่ไอ้มาร์คจะขึ้นมาถึง ผมให้มันแอบอยู่ที่ระเบียงของห้อง หลังจากนั้นเธอก็อาบน้ำเสร็จ ผมก็ขอตัวเข้าห้องน้ำบ้าง พอผมอาบน้ำเสร็จผมก็เดินโทงๆออกมาด้วยสภาพเปลือยเปล่า ทอฝันอยู่ในชุดผ้าขนหนูตัวเดียวนั่งอยู่บนเตียง ผิวเธอขาวสะอาด อกอวบเต่งตึง ผมยาวสลวย เป็นลักษณะที่ผมชอบดังเช่นในอดีต ผมเข้าไปกอดจูบเธอ เธอก็เอนตัวนอนลงบนเตียง เราไม่พูดพร่ำทำเพลงกันมาก ผมใช้มือกระตุกผ้าเธอออกจากร่าง เรานอนกอดจูบกัน มือผมก็ซนล้วงไปทั่วร่างที่ผมเคยถวิลหาทุกยามที่เงียบเหงา ปากผมก็ดูดงับที่หัวนมเม็ดเล็กของเธออย่างแรงจนเธอผวาร้องครางออกมา คงทั้งเจ็บและเสียวซ่าน นมเธอใหญ่มากขึ้นกว่าเดิมที่ผมเคยแตะต้องในวัยสาว แต่หัวนมยังเล็กน่ากัดมาก มือผมก็ล้วงไปที่เนินเสียว รู้สึกว่ามีน้ำแฉะไหลออกมาจนฉ่ำเยิ้ม ทอฝันร้องครางหลับตา บิดส่ายตัวไปมาบนที่นอน ผมหันไปหาไอ้มาร์คพร้อมพยักหน้าให้มันเข้ามาเลียร่องเสียวที่ผมกำลังเกาะกุมอยู่ เพื่อนผมก็ว่าง่าย มันตรงเข้ามาเลียที่หว่างขาเธอทันที ทอฝันร้องครางเสียงดังมากขึ้นด้วยความซ่านเสียวที่โดนโจมตีทั้งด้านบนและด้านล่างพร้อมๆกัน ผมยิ่งได้อารมณ์ทั้งรักทั้งแค้น ก็ยิ่งบีบกำขยำเคล้นทรวงอกขนาดใหญ่ของเธอจนแทบแหลกคามือ ทอฝันครางกระเส่าแต่ไม่ได้ร้องห้ามการกระทำของผมเลย หลังจากนั้นผมเลยเอาท่อนเอ็นของผมยัดเข้าปากเธอ เธอดูดเอ็นผมอย่างชำนาญ เธอดูดอมได้อร่อยมาก จนผมเสียวแทบขาดใจ ส่วนไอ้มาร์คที่ก้มหน้าก้มตาตวัดลิ้นหยาบยาวของมันเลียร่องเสียวของเธออยู่นั้น ก็เอื้อมมือมาบีบคลึงหัวนมเธอเบาๆ หลังจากผมเสียวสุดๆผมเลยบอกให้เธอพอก่อน แล้วผมก็บอกให้เพื่อนเปลี่ยนตำแหน่งกัน ทุกครั้งที่ร่วมมือกันกับไอ้มาร์ค ผมไม่เคยรังเกียจที่จะลงลิ้นเลียร่องเสียวของสาวคู่ขา แต่ครั้งนี้ผมกลับไม่ทำ คงเพราะผมนึกไปถึงว่า ร่องเสียวเธอเคยถูกท่อนลำของไอ้ชัยพลทะลวงผ่านมาก่อน จึงรู้สึกขยะแขยงผมใช้นิ้วแทงเข้าไปในร่องเสียวของเธอจากสองนิ้วเพิ่มเป็นสามนิ้ว จนทอฝันร้องครางบอก พี่...เจ็บๆ แต่ผมก็ไม่หยุดที่จะแทงนิ้วคว้านควักแบบแรงๆ ท่อนเอ็นของผมแข็งโด่ชูชันเต็มที่ ผมสวมถุงยางอนามัยเพราะมีติดกระเป๋าตังค์อยู่แล้วเวลาออกมาเที่ยว เผื่อเหตุฉุกเฉิน ผมมองดูเรียวปากของเธออมดุ้นเอ็นขนาดยักษ์ของไอ้มาร์คจนแก้มป่อง ผมก็ยิ่งสะใจได้อารมณ์มาก ร่างทอฝันนอนหงายตาเหลือก เพราะไอ้มาร์คลืมตัวกระเด้าแทงดุ้นเอ็นขนาดเขื่องของมันเข้าปากเธออย่างเมามัน มันนั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆหัวของเธอ ขาเธอหย่อนตกจากขอบเตียง ผมยืนอยู่กลางหว่างขาเธอ ดันท่อนเอ็นของผมเข้าไปในรูเสียว มันก็เข้าไปง่ายหน่อยเพราะเธอมีน้ำหล่อลื่นมากอยู่แล้ว ผมแทงท่อนเอ็นดันพรวดเข้าไปทั้งเร็วและแรง ทีเดียวมิดลำสุดโคน ทอฝันผวาครางอู้อี้เพราะในปากเธอมีดุ้นเอ็นขนาดยักษ์ของไอ้มาร์คเสียบคาอยู่ ผมโยกเอวแอ่นกระแทกเน้นๆอย่างไม่ปรานี มันได้อารมณ์มากจริงๆ ตาผมก็จดจ่ออยู่กับเรียวปากของเธอที่อมดูดดุ้นเอ็นของเพื่อนผมผมเปลี่ยนท่าอีกครั้งให้เธออยู่ในลักษณะคลานโก้งโค้ง ให้ไอ้มาร์คแทรกตัวลงไปนอนอยู่ข้างล่างตัวเธอ แล้วให้มันสอดดุ้นเอ็นใส่ในรูเสียวเธอ ทันทีที่ไอ้มาร์คเสียบดุ้นเอ็นยักษ์ของมันเข้าไป ทอฝันก็ร้องกรี๊ดลั่นห้อง พยายามดิ้นหนี แต่ผมสองคนก็ยึดจับร่างเธอไว้แน่น ผมอยู่ด้านหลังเธอรีบจับท่อนเอ็นของตัวเองจรดจ่อที่รูก้นของเธอ วันนี้แหละที่เธอจะต้องจดจำมันไปจนวันตาย ผมร้องคำรามอยู่ในใจ แม้มันไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ เพราะไอ้มาร์คเด้งเอวกระเด้าสวนขึ้นลงจนร่างของทอฝันกระเด้งกระดอนไปมาไม่อยู่นิ่ง ผมจึงใช้นิ้วนำร่องเข้าไปรูก้นของเธอก่อน ชอนไชเข้าไปจนมิดนิ้วกลางของผม จากนั้นผมก็จับแก้มก้นเธอแบะออกเพื่อถ่างรูก้น แล้วดันให้ท่อนเอ็นผมมุดเข้าไปในรู ตอนแรกมันก็เข้ายากหน่อยโอ๊ยๆ...พี่...เอาออกๆ..ขวัญเจ็บ...อู๊ย... เธอร้องเสียงดังพยายามจะส่ายก้นหนี แต่มันก็หนีไปไหนไม่ได้ ผมเลยค่อยๆดันเข้าไป ดันเข้าไป จนมิดด้าม เธอก็ร้องว่าเจ็บๆ ผมบอกทนเอาหน่อย เดี๋ยวก็หายเจ็บ แล้วมันจะเปลี่ยนเป็นความเสียวแทน ไอ้มาร์คเด้งรับอยู่ด้านล่าง ผมก็โยกเข้าโยกออกอยู่ด้านบน รูก้นเธอดูดดีมาก ทั้งรัดทั้งฟิต แสดงว่าไอ้ชัยพลคงไม่เคยลิ้มลองร่องรักช่องนี้มาก่อนเลย ผมยิ้มสะใจ มันหนึบแน่นดีกว่ารูหีของสาวบริสุทธิ์เสียอีก ผมชอบมาก ผมดึงของผมออกมาจนเกือบสุดแล้วก็ดันสวนเข้าไปใหม่ เสียวมากจริงๆ ผมทั้งตื่นเต้นทั้งสะใจจนทำให้น้ำอดน้ำทนของผมหายไปหมดสิ้น เพียงกระแทกเน้นๆไม่กี่ครั้งท่อนเอ็นของผมก็ฉีดน้ำกามใส่รูก้นเธอจนเต็มถุงยางผมถอดถุงยางออกแล้วรีบจับท่อนเอ็นใส่ปากเธอ เธอก็ดูดกินได้อร่อยมาก พักเดียวไอ้มาร์คก็จะเสร็จเหมือนกัน มันเตรียมตัวดึงออกมาแตกข้างนอก แต่ก่อนที่ไอ้มาร์คมันจะดึงดุ้นเอ็นของมันออกมา ทอฝันก็ทำหน้าบิดเบี้ยวเหยเก พร้อมกับกระแทกร่องเสียวของเธอสวมดุ้นเอ็นยักษ์ของมันอย่างแรง แล้วคว้าจับเอวมันไว้แน่น จนไอ้มาร์คต้องร้องครางอู้ น้ำแตกในร่องหลืบของเธอทันที ผมแอ่นเอวยื่นท่อนเอ็นให้เธอเลียกินน้ำกามของผม เธอก็ดูดกินทุกหยาดหยดจนสะอาด ก่อนที่จะทิ้งร่างลงนอนคว่ำบนเตียงอย่างอ่อนแรง กลีบแคมของทอฝันที่โผล่พ้นออกมาจากง่ามขาด้านหลังขมิบตัวหยุบๆ รีดเอาน้ำกามขาวข้นของไอ้มาร์คไหลย้อยออกจากปากร่องเสียวของเธอหยดลงบนเตียงเป็นดวงกลมใหญ่นี่เป็นเพียงเกมแรก คืนนี้ทอฝันเธอจะต้องชดใช้ให้กับผมอีกมาก ผมสัญญากับใจตัวเอง หลังจากพักเหนื่อยได้สักครู่ พายุสวาทลูกใหม่ก็ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง และอีกครั้ง จวบจนรุ่งเช้า ก่อนจากกันในบ่ายของวันที่สาม ที่เราทั้งสามคนขลุกกันอยู่แต่ในห้อง อาหารการกินก็เพียงสั่งขึ้นมา จากนั้นพอมีแรง ร่างของอดีตสาวคนรักก็กลายเป็นทาสสวาทให้ผมกับไอ้มาร์คถล่มร่องเสียวจนบานเบิกก่อนจากกันผมมอบเงินสดที่อยู่มีอยู่ให้ทอฝันไปจำนวนหนึ่งพร้อมนามบัตร ทันทีที่เธอพลิกดูชื่อของผม..นายภูผา พงษ์เกษตร ทอฝันก็หน้าเสีย เธอเงยหน้ามองดูหน้าผมอีกครั้ง ริมฝีปากเธอสั่นระริกก่อนเม้มปากกลั้นก้อนสะอื้น เธอก้มหน้าเดินจากไป แต่ผมก็ทันได้เห็นน้ำตาของเธอที่ไหลรินออกมา...แวบหนึ่งหลังจากนั้นอีกวันหนึ่ง ผมกับไอ้มาร์คก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ แต่แทนที่จิตใจผมจะเบิกบานเพราะได้แก้แค้นอดีตสาวคนรักไปแล้ว ผมกลับถวิลหารสสวาทจากทอฝัน กลิ่นกายหอมกรุ่นเหมือนยังติดอยู่ที่จมูก เสียงครางกระเส่าด้วยความกระสันรัญจวนยังคงดังแว่วอยู่ในโสตประสาท โอ้ ผมควรจะทำเช่นไรดี....... เล่าเรื่องเสียว แค้นนี้รอเธอ